เฮมพ์ (hemp) เป็นพืชที่หลายคนอาจคุ้นเคยกันดีในฐานะญาติของกัญชา แต่ไม่เหมือนกับกัญชามีฤทธิ์ทางยา เฮมพ์ถูกปลูกเพื่อวัตถุดิบที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใยเฮมพ์ (hemp fiber) ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ทองคำสีเขียว” ในวงการอุตสาหกรรม
ใยเฮมพ์มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน:
-
ความแข็งแรงและทนทาน: ใยเฮมพ์มีความเหนียวและแข็งแรงกว่าฝ้ายถึงสามเท่า และทนต่อการขาดและฉีกขาดได้ดีเยี่ยม
-
ความยั่งยืน: เฮมพ์เป็นพืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องการปุ๋ยและยาฆ่าแมลงมากนัก ทำให้เป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
ความดูดซับความชื้น: ใยเฮมพ์สามารถดูดซับความชื้นได้ดีกว่าฝ้ายถึง 20%
-
กันUV: ใยเฮมพ์มีความต้านทานต่อรังสี UV ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอที่ทนทานต่อแสงแดด
การนำใยเฮมพ์ไปใช้งาน
ใยเฮมพ์สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย:
-
อุตสาหกรรมสิ่งทอ: ใยเฮมพ์ถูกนำมาทอเป็นผ้าได้หลากหลายชนิด เช่น ผ้าพันแผล ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า
-
อุตสาหกรรมการก่อสร้าง: ใยเฮมพ์สามารถผสมกับซีเมนต์เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทานให้แก่คอนกรีต
-
อุตสาหกรรมยานยนต์: ใยเฮมพ์ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับทำแผงประตู แผงคอนโซล และเบาะนั่งในรถยนต์
-
อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์: ใยเฮมพ์สามารถนำมาผลิตถุงกระดาษ กล่องกระดาษ และภาชนะบรรจุภัณฑ์อื่นๆ
การผลิตใยเฮมพ์
ขั้นตอนการผลิตใยเฮมพ์โดยทั่วไปมีดังนี้:
-
การปลูก: เฮมพ์ถูกปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดและดินที่อุดมสมบูรณ์
-
การเก็บเกี่ยว: เมื่อเฮมพ์โตเต็มที่ (ประมาณ 4 เดือน) จะถูกรื้อและตัดแต่งก้าน
-
การแยกใย: ก้านเฮมพ์จะถูกนำมาผ่านกระบวนการ “retting” เพื่อแยกใยจากลำต้น
-
การหวีและการสาน: ใยเฮมพ์ที่แยกได้แล้วจะถูกหวีและสานเป็นเส้นใย
-
การแปรรูป: เส้นใยเฮมพ์สามารถผ่านกระบวนการฟอกสีและย้อมสีเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน
ข้อดีของการใช้ใยเฮมพ์
-
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: เฮมพ์เป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องการปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลงมากนัก ทำให้เป็นวัสดุที่ยั่งยืน
-
มีความแข็งแรงและทนทาน: ใยเฮมพ์มีความเหนียวและแข็งแรง
-
ดูดซับความชื้นได้ดี: เหมาะสำหรับการผลิตเสื้อผ้าที่สบายและระบายอากาศได้ดี
-
มีศักยภาพในการต่อยอด: ใยเฮมพ์สามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย
ข้อจำกัดของการใช้ใยเฮมพ์
-
ต้นทุนการผลิต: การผลิตใยเฮมพ์ยังมีต้นทุนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ
-
ความยืดหยุ่นต่ำ: ใยเฮมพ์มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าฝ้าย ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการผลิตเสื้อผ้าบางประเภท
-
ข้อจำกัดในตลาด: ในปัจจุบันยังมีผู้บริโภคที่ไม่คุ้นเคยกับใยเฮมพ์เท่าไรนัก
อนาคตของใยเฮมพ์
ถึงแม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ใยเฮมพ์ก็มีศักยภาพที่จะเป็นวัสดุสำคัญในอนาคต ด้วยความนิยมในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคและผู้ประกอบการต่างหันมาสนใจใยเฮมพ์มากขึ้น
เทคโนโลยีการผลิตใยเฮมพ์ก็กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง และคุณภาพของใยเฮมพ์ดีขึ้น